นายเศรษฐา ทวีสิน

ดีเดย์ 15 พ.ค. นี้! อสม. รับเงินรวมคนละ 8,000 บาท

ดีเดย์ 15 พ.ค. นี้! อสม. รับเงินรวมคนละ 8,000 บาท

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ รัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติตั้งงบประมาณประจำปี 2567 ให้กับกระทรวงสาธารณสุข สำหรับจ่ายเป็นค่าป่วยให้กับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1.07 ล้านคนทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราค่าป่วยการที่เพิ่มจากเดิมเดือนละ 1,000 บาท เป็นเดือนละ 2,000 บาท มีผลตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ 2567 เดือน ต.ค. 66 ที่ผ่านมา

ในเดือน พ.ค. นี้ ชาว อสม.จะได้รับเงินค่าป่วยการในอัตราใหม่ 2,000 บาท และตกเบิกย้อนหลังตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 – เม.ย. 67 อีก 7,000 บาท รวม 9,000 บาท จากนั้นจะได้รับค่าป่วยการเดือนละ 2,000 บาททุกเดือน ทั้งนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศไทม์ไลน์การเบิกจ่ายค่าป่วยการ อสม. โดยจะโอนเงินค่าป่วยการ อสม. รอบเดือน เม.ย. 67 เข้าบัญชีในวันที่ 15 พ.ค. 67 จำนวน 2,000 บาท และ เงินตกเบิกย้อนหลัง 6,000 บาท รวมรับ 8,000 บาท

“รัฐบาลให้ความสำคัญต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ถือเป็นกลไกสำคัญในการดูแลสุขภาพคนในชุมชน ช่วยขับเคลื่อนระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ เป็นจิตอาสาที่เสียสละตนเองในการดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพปฐมภูมิขั้นพื้นฐานได้อย่างเท่าเทียม โดยรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขพร้อมจะดูแลสวัสดิการต่างๆ ให้อย่างต่อเนื่อง” น.ส.เกณิกา กล่าว

ธปท. ตอบแล้ว เงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำได้จริงหรือเปล่า

ธปท. ตอบแล้ว เงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำได้จริงหรือเปล่า

เงินดิจิตอล คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ถูกออกโดยธนาคารกลางของประเทศไทย (ธปท.) และมีชื่อทางการว่า Central Bank Digital Currency (CBDC) หรือ Digital Currency Electronic Payment (DCEP) เงินดิจิตอลนี้ถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน และใช้สำหรับการจ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)

การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ที่ใช้หาเสียงในช่วงก่อนการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 จนกระทั่ง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย

โดยทันทีที่มีการประกาศโฉมหน้านายกฯ ของไทยนั้น หลายคนก็ถามหาถึงประเด็นการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท กันอย่างล้นหลาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ขัดกับกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือไม่

ล่าสุด มีรายงานจาก ธปท. ระบุุุถึงเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดของนโยบาย คงต้องขอดูความชัดเจนก่อน โดยก่อนหน้านี้ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลายสำนักถึงเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท มุมมอง ธปท. ที่มีต่อแนวทางนโยบายไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ถ้ามีนโยบายที่กระตุ้นการใช้จ่าย ต้องชี้แจง และดูรูปแบบว่าเป็นอย่างไร

เงื่อนไข รายละเอียดเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย มีดังนี้

คุณสมบัติผู้มีสิทธิรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

  • คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” (Digital Wallet) อย่างเท่าเทียมในฐานะคนเท่ากัน
  • กลุ่มผู้พิการ คนชรา ที่มีสวัสดิการอื่นๆก็จะได้รับเต็มจำนวนโดยไม่หัก
  • ประชาชนที่มีสิทธิ์รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ต้องดำเนินการใดๆ
  • ไม่ต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯ รอเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติอย่างเดียว

การใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท

  • ใช้จ่ายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันได้ทุกประเภท
  • ไม่สามารถซื้ออบายมุข โดยเฉพาะยาเสพติด การพนัน สินค้าออนไลน์ รวมถึงไม่สามารถนำไปใช้หนี้ได้
  • ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และท้องถิ่น ไม่ทำให้รายได้กระจุกตัวแต่ในเมือง
  • ระยะเวลาการใช้งาน 6 เดือน เป็นมาตรการเพื่อปั๊มหัวใจกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ให้เดินต่อได้

วิธีใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท

  • เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะมีแอปฯ ที่ผูกกับบัตรประชาชนให้โหลด หรือใช้บัตรประชาชนคู่กับ QR Code ส่วนตัวที่จะออกให้โดยหน่วยงานรัฐ
  • หากไม่มีโทรศัพท์มือถือให้ใช้บัตรประชาชนคู่กับ QR Code ส่วนตัวโดยจะมีการผูกในระบบอยู่แล้วโดยประชาชนไม่ต้องดำเนินการใด

กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท แลกเป็นเงินสดได้ไหม

  • แลกเป็นเงินสดได้ โดยพ่อค้าแม่ขายที่จดทะเบียนการค้า สามารถขึ้นเงินสดได้ไม่ต้องกังวล

ทำไมต้องเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท

  • ไม่มีความเสี่ยงปลอดภัยสูงสุด ปลอดภัยทุกเส้นทางธุรกรรมการเงิน
  • กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ใช่สกุลเงินใหม่ ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่มีเก็งกำไร ไม่มีราคาตก
  • สร้างระบบการเงินใหม่ เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้ฐานทางการเงินใหม่ให้ไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่คนทั้งประเทศเข้าถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน
  • ศูนย์กลาง FinTech ของภูมิภาค เพราะกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางการเงินของภูมิภาค
  • ไม่ยกเลิกบัตรคนจน เมื่อหายจนประชาชนจะเลิกใช้ไปเอง โดยพรรคเพื่อไทยจะฟื้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน